titie

ประวัติร้านสหกรณ์วิทยาลัยพณิชยการพระนครจำกัด

เรียบเรียงโดย ผศ. ว่าที่ ร.ต. วัชระ โพธิสรณ์ ( สิงหาคม 2557 )

ประวัติร้านสหกรณ์วิทยาลัยพณิชยการพระนคร เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2497 สมัยที่กรมอาชีวศึกษายังเป็นต้นสังกัดของโรงเรียนพณิชยการพระนครในขณะนั้น ต้องการขยายพื้นที่การศึกษา จึงได้ขอซื้อที่ดินพร้อมบ้านเรือนไม้สองชั้นสองหลัง จากหม่อมเมี้ยน อาภากร ณ อยุธยา และหม่อมเจ้ารุจยากร อาภากร ณ อยุธยา ให้เป็นที่ตั้งถาวรของโรงเรียนพณิชยการพระนครซึ่งต่อมาได้เติบโตก้าวหน้าเป็นวิทยาลัยพณิชยการพระนคร วิทยาเขตพณิชยการพระนคร และคณะบริหารธุรกิจ กับคณะศิลปศาสตร์ ในสังกัดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ดังที่ทราบในปัจจุบัน

พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ผู้ทรงครอบครองวังนางเลิ้ง(เดิม)ซึ่งมีอาคารไม้ซึ่งต่อมาเรียกว่า "เรือนหมอพร" ตั้งอยู่ ทรงฉายพระรูปกับหม่อมเมี้ยน อาภากร ณ อยุธยา

ในตอนที่เป็นวิทยาลัยพณิชยการพระนครนั้น เรือนไม้หลังหนึ่งชำรุดทรุดโทรมมากเกินกว่าจะซ่อมแซมจึงถูกรื้อถอนไปแล้ว เหลือเรือนอยู่เพียงหลังเดียวซึ่งต่อมามีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “เรือนหมอพร” ซึ่งในสมัยของท่านศาสตราจารย์ธรรมนูญ อัคคพานิช เป็นผู้อำนวยการ ได้ริเริ่มตั้งร้านฝึกการค้าซึ่งเป็นจุดกำเนิดของร้านสหกรณ์วิทยาลัยพณิชยการพระนครขึ้นมาเพื่อให้นักเรียนได้ฝึกทำการค้าตามวิชาชีพที่กำลังศึกษาอยู่ โดยใช้เรือนหมอพรเป็นที่ทำการของร้านสหกรณ์ และเดิมเรียกว่า “ร้านฝึกการค้า”ดำเนินการโดยนักเรียน ชั้นบนเป็นที่เก็บสินค้า ส่วนชั้นล่างเป็นที่ทำการค้า

เรือนหมอพร สมัยที่อยู่ในพื้นที่ของวิทยาลัยพณิชยการพระนคร

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในพิธีเปิดพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้มีรับสั่งถามว่า “ยังมีสิ่งใดที่ในสมัยเป็นวังหลงเหลืออยู่บ้าง” ศาสตราจารย์ธรรมนูญ อัคคพานิช ผู้อำนวยการได้กราบบังคมทูลพระกรุณาว่า “ยังมีเรือนหลังหนึ่งอยู่” จึงมีพระราชกระแสว่า “ให้อนุรักษ์ไว้” ซึ่งก็คือ “เรือนหมอพร” หลังนี้นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ร้านฝึกการค้าจึงย้ายที่ทำการออกมาตั้งอยู่ ณ ชั้นล่างอาคาร 2 ด้านหน้าติดกับถนนพิษณุโลก และต่อมาได้จดทะเบียนเป็นร้านสหกรณ์วิทยาลัยพณิชยการพระนครจำกัด จนถึงปัจจุบัน ส่วนเรือนหมอพรนั้นได้ใช้เป็นที่ตั้งของแผนกพยาบาล โดยเรียกว่า “เรือนพยาบาล” และต่อมาจึงตั้งชื่อว่า “เรือนหมอพร” เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งทรงปฏิบัติหน้าที่ในบทบาทของหมอผู้รักษาคนไข้ ในระหว่างปี พ.ศ. 2454-2460 พระองค์ได้กราบบังคมทูลลาออกจากราชการ และทรงสนพระทัยศึกษาในวิชาการแพทย์แผนโบราณจากตำราไทยและจากแพทย์ชาวต่างชาติ ทรงเขียนตำรายาแผนโบราณลงในสมุดข่อย และทรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บแก่คนทั่วไป โดยไม่คิดค่ารักษาหรือค่ายา ทรงฉลองพระองค์แบบง่าย ๆ ใส่เสื้อราชปะแตนและนุ่งผ้าม่วงตามสมัยนิยมในยุคนั้น ถือไม้เท้ากระเป๋าล่วมยา เวลาเสด็จไปไหนจะประทับบนรถม้า รักษาชาวบ้านตั้งแต่ละแวกนางเลิ้งไปจนถึงเยาวราช ผู้คนในชุมชนนางเลิ้งสมัยนั้น ทรงให้เรียกพระองค์ท่านว่า “หมอพร” โดยเมื่อ พ.ศ.2522 มีพิธีเปิดเรือนหมอพร โดยสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร เป็นประธานในพิธี

เรือนหมอพร สมัยที่อยู่ในการดูแลของวิทยาเขตพณิชยการพระนคร

ร้านสหกรณ์วิทยาลัยพณิชยการพระนครได้ดำเนินกิจการเติบโตมาตามลำดับ โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้อำนวยการวิทยาลัยพณิชยการพระนครซึ่งต่อมาคือผู้อำนวยการวิทยาเขตพณิชยการพระนครทุกๆ ท่านที่กรุณาเข้ามารับเลือกตั้งเพื่อทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการร้านสหกรณ์ฯ ร่วมกับครูอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาซึ่งสมัครเข้าเป็นสมาชิก ให้การสนับสนุน และซื้อของจากร้านสหกรณ์เป็นประจำตลอดมา

กิจการร้านสหกรณ์เติบโตเฟื่องฟูมีรายได้สูงสุดในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2520 – 2530 ซึ่งนอกจากการขายสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างร้านโชว์ห่วยหรือร้านสะดวกซื้อแล้วยังมีการรับจัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือแบบเรียนต่างๆ ของคณะครูอาจารย์ของวิทยาเขตเพื่อจำหน่ายให้แก่นักศึกษาและบุคคลภายนอก รวมทั้งการจำหน่ายชุดนักศึกษาและเครื่องแบบเครื่องหมายต่างๆ ของวิทยาเขตอีกด้วย

ในทศวรรษที่ผ่านมากิจการร้านสหกรณ์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะครั้งล่าสุดเมื่อปลายปี พ.ศ. 2556 ถึงต้นปี พ.ศ. 2557 ร้านสหกรณ์ฯ ไม่สามารถเปิดทำการตามปกติได้เป็นเวลาประมาณ 6 เดือน แต่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจประกอบกับความตั้งใจจริงรวมกับความซื่อสัตย์สุจริตของเหล่ากรรมการ ผู้จัดการ พนักงาน และมวลสมาชิก ทำให้กิจการของร้านสหกรณ์วิทยาลัยพณิชยการพระนครยังคงยืนหยัดอยู่ได้โดยไม่ขาดทุน จึงอาจถือได้ว่าการดำรงคงอยู่อย่างยาวนานมั่นคงเกือบศตวรรษของร้านสหกรณ์วิทยาลัยพณิชยการพระนครจำกัดดังกล่าวมานี้ ย่อมเป็นความภาคภูมิใจของชาวพณิชยการพระนคร และประชาชนทั่วไปผู้เชื่อมั่นในอุดมการณ์แห่งสหกรณ์ตลอดไป